0
0
กรณีการสูญหายไปอย่างเป็นปริศนาของ “เรือดำน้ำไททัน” ซึ่งเป็นเรือดำน้ำพาชม ซากเรือไททานิก ที่หลับใหลอยู่ใต้มหาสมุทรแอตแลนติก ถือเป็นประเด็นที่ทั่วโลกต่างกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดด้วยความเอาใจช่วย และขอให้มีปาฏิหาริย์ทุกคนรอดชีวิต
เมื่อเส้นตายเวลาที่ออกซิเจนในเรือจะหมดลงใกล้เข้ามาเรื่อย ๆนิวมีเดีย พีพีทีวี ได้รวบรวมทุกข้อมูลและไทม์ไลน์เหตุการณ์ที่เกี่ยวกับ เรือดำน้ำไททัน ที่ผ่านมาไว้ที่นี่แล้ว
เรือไททานิก…แม่เหล็กดึงดูดนักสำรวจ
เมื่อปี 1912 โลกต่างอึ้งทึ่งไปกับการถือกำเนิดของ “เรือไททานิก” (Titanic) เรือสำราญที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ที่สุด หรูหราที่สุด และอลังการที่สุดแห่งยุค ก่อนที่ความสวยงามนั้นจะจบลงที่ความโศกเศร้า เมื่อเที่ยวเรือแรกของมันจบลงที่ “โศกนาฏกรรม”
15 เมษายน 1912 เรือไททานิกชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งในการเดินทางครั้งแรกจากเซาแธมป์ตันไปนิวยอร์ก เป็นเหตุให้มีเสียชีวิตมากกว่า 1,500 คนจากผู้โดยสารและลูกเรือกว่า 2,200 คน และตัวเรือได้จมลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก หลับใหลทอยู่ที่ความลึกมากกว่า 3,800 เมตร
ซากปรักหักพังของไททานิกถูกสำรวจมาโดยตลอดนับตั้งแต่ถูกค้นพบในปี 1985 โดยซากเรือแบ่งเป็นสองส่วน โดยหัวเรือและท้ายเรือแยกจากกันประมาณ 790 เมตร และจนถึงปัจจุบันยังไม่สามารถกู้คืนขึ้นมาได้ด้วยขนาดที่ใหญ่จนเกินไป
และเมื่อเดือนที่แล้ว เพิ่งมีการสแกนดิจิทัลซากเรือขนาดเต็มได้เป็นครั้งแรก โดยถูกสร้างขึ้นโดยใช้การทำแผนที่ใต้ทะเลลึก การสแกนแสดงทั้งขนาดของเรือ ตลอดจนรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น หมายเลขประจำเครื่องบนหนึ่งในใบพัด ฯลฯ
นั่นทำให้เรือไททานิกเปรียบเสมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดเหล่านักวิจัย นักสำรวจ และมหาเศรษฐีผู้ชื่นชอบในความท้าทาย ต่างต้องการเดินทางลงไปใต้ทะเลลึก เพื่อขอเห็นซากตำนานอย่างไททานิกกับตาตัวเองสักครั้ง
เปิดสเปกเรือดำน้ำไททัน
โอเชียนเกต เอ็กซ์พิดิชันส์ (OceanGate Expeditions) เป็นหนึ่งในบริษัทที่เล็งเห็นโอกาสของการทำเงินจากการพานักท่องเที่ยวที่สนใจลงไปชมซากไททานิก จึงได้พัฒนาเรือดำน้ำขนาดเล็ก (Submersible) ที่ชื่อว่า “ไททัน” (Titan) ขึ้นมา
เรือดำน้ำไททันมีความยาว 6.7 เมตร สูง 2.5 เมตร ตัวเรือทำจากคาร์บอนไฟเบอร์และไททาเนียม น้ำหนัก 10.4 ตัน มีเครื่องยนต์ 4 ตัว ทำความเร็วได้สูงสุด: 3 น็อต (5.5 กม./ชม.) และสามารถดำลงไปใต้น้ำได้ลึกถึง 4,000 เมตร ซึ่งเพียงพอที่จะลงไปสำรวจซากเรือไททานิก
มีรายงานว่า ทั้งโลกมีเรือดำน้ำขนาดเล็กเพียง 5 ลำเท่านั้นที่สามารถบรรทุกคนลงไปได้ลึกขนาดนี้ ซึ่งไททันเป็นหนึ่งในนั้น
เรือดำน้ำลำนี้ยังมีการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ระบบแสงและโซนาร์ล้ำสมัย รวมถึงวิดีโอ 4K และอุปกรณ์ถ่ายภาพที่ติดตั้งไว้ทั้งภายในและภายนอกเรือ รวมถึงระบบตรวจสอบสุขภาพตัวเรือตามเวลาจริง (RTM) ซึ่งวิเคราะห์ความดันบนเรือและความสมบูรณ์ของโครงสร้างได้แบบเรียลไทม์
ตัวยานทำงานโดยใช้จอยวิดีโอเกม (Video Game Controller) ในการควบคุม ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติ และในยุทโธปกรณ์ทางทหารของหลายประเทศในปัจจุบัน ก็ใช้จอยเกมในการควบคุมเช่นกัน
ไททันสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 5 คน คาดว่ามีออกซิเจนเพียงพอที่จะอยู่ใต้น้ำประมาณ 96 ชั่วโมง หรือ 4 วัน
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า ตัวเรือดำน้ำไททันนี้ถูกล็อกจากภายนอก และผู้โดยสารข้างในไม่สามารถเปิดออกมาเองได้ ซึ่งที่ระดับความลึกหลายพันเมตร ผู้โดยสารก็ไม่สามารถออกมาจากเรือได้อยู่ดี เพราะจะเผชิญกับแรงดันมหาศาลที่ทำให้เสียชีวิตได้
เดวิด โพก นักข่าวของ CBS ที่เคยเดินทางบนไททันเมื่อปีที่แล้ว ออกมาเปิดเผยประสบการณ์ว่า “ไม่มีทางที่จะหลบหนีได้ แม้ว่าคุณจะขึ้นสู่ผิวน้ำด้วยตัวเองก็ตาม คุณไม่สามารถออกจากเรือดำน้ำได้หากไม่มีลูกเรือด้านนอกช่วยปล่อยคุณออกไป”
เขายังเสริมว่า ไม่มีทางที่ลูกเรือบนบกจะสื่อสารกับผู้ที่อยู่ภายในเรือดำน้ำได้ เนื่องจากทั้ง GPS และวิทยุ “ทำงานใต้น้ำไม่ได้” ยกเว้นเรือหลักจะอยู่ในตำแหน่งเหนือเรือดำน้ำพอดี จะสามารถส่งข้อความสั้น ๆ ได้
นอกจากนี้ มีรายงานที่แสดงให้เห็นว่า มีคนเคยเตือนโอเชียนเกตเกี่ยวกับปัญหาด้านความปลอดภัยร้ายแรงของไททัน
เดวิด ล็อกริดจ์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการทางทะเลของโอเชียนเกต กล่าวในคดีความในปี 2018 ว่า การทดสอบและการรับรองความปลอดภัยของบริษัทยังไม่เพียงพอ และ ”จะทำให้ผู้โดยสารได้รับอันตรายร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นในเรือดำน้ำ”
ไทม์ไลน์การสูญหาย
โอเชียนเกต เอ็กซ์พิดิชันส์ ให้บริการนำผู้โดยสารไปยังซากเรือไททานิกที่ก้นมหาสมุทรด้วยราคาเริ่มต้นที่ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ (8.7 ล้านบาท) ต่อหัว
การเดินทางจะใช้เวลา 8 วัน โดยเรือเรือวิจัยโพลาร์พรินซ์ (Polar Prince) จะขนเรือดำน้ำไททันไปยังกลางมหาสมุทร เริ่มต้นจากเมืองเซนต์จอห์น รัฐนิวฟาวด์แลนด์ แคนาดา เดินทางระยะทาง 700 กิโลเมตรไปยังซากเรือ
จากนั้นโพลาร์พรินซ์จะปล่อยไททันลงสู่ก้นมหาสมุทร คาดว่าจะใช้เวลาดำลงไปและกลับขึ้นมารวมทั้งสิ้นประมาณ 8 ชั่วโมง
โดยทริปที่เกิดเหตุ ออกเดินทางจากนิวฟาวด์แลนด์สู่มหาสมุทรแอตแลนติกตั้งแต่วันศุกร์ที่ 16 มิ.ย. 2023 มีผู้โดยสาร 5 คน (รวมพลขับ) คือ ฮามิช ฮาร์ดิง นักธุรกิจและนักสำรวจชาวอังกฤษวัย 58 ปี, ชาห์ซาดา ดาวู้ด นักธุรกิจชาวอังกฤษวัย 48 ปี, สุเลมาน ดาวู้ด ลูกชายของชาห์ซาดา วัย 19 ปี, พอล-อองรี นาร์โจเลต นักสำรวจชาวฝรั่งเศสวัย 77 ปี ฉายา “Mr.Titanic” และสต็อกตัน รัช ผู้บริหารของโอเชียนเกต วัย 61 ปี
วันศุกร์ 16 มิ.ยคำพูดจาก สล็อต777. 2023
- ทริปที่เกิดเหตุ ออกเดินทางจากนิวฟาวด์แลนด์สู่มหาสมุทรแอตแลนติก
วันอาทิตย์ที่ 18 มิ.ย. 2023
- เรือโพลาร์พรินซ์เดินทางมาถึงจุดปล่อยตัวเรือดำน้ำไททัน โดยหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ให้ข้อมูลว่า ไททันเริ่มดำน้ำในช่วงเวลา 6-7 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น (18.00-19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย)
- 1 ชั่วโมง 45 นาทีต่อมา เรือโพลาร์พรินซ์ขาดการติดต่อกับไททัน
- 14.00 น. (02.00 น. ของวันที่ 19 มิ.ย. ตามเวลาประเทศไทย) เรือดำน้ำไททันไม่ลอยกลับขึ้นสู่ผิวน้ำตามกำหนดการ
- 16.40 น. (04.40 น. ของวันที่ 19 มิ.ย. ตามเวลาประเทศไทย) หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ได้รับแจ้งเหตุยืนยันเรือดำน้ำไททันสูญหาย
จันทร์ 19 มิ.ย. 2023
- ทางการสหรัฐฯ และแคนาดาเริ่มปฏิบัติการ้นหา โดยใช้เครื่องบิน เรือ และทุ่นโซนาร์
วันอังคาร 20 มิ.ย. ถึงวันพุธ 21 มิ.ย.
- มีรายงานว่า ทีมค้นหา “ตรวจพบเสียงใต้น้ำ” เปลี่ยนทิศทางยานควบคุมระยะไกล (ROV) ที่ปฏิบัติการค้นหาใต้ทะเล ไปยังบริเวณที่ดูเหมือนจะเป็นแหล่งกำเนิดเสียงแทน แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณที่จับต้องได้ของเรือที่หายไป
วันพฤหัสบดี 22 มิ.ย.
- ตามการคาดการณ์ที่ว่าในเรือดำน้ำไททันมีออกซิเจนเพียงพอราว 4 วัน ทำให้ประเมินว่า ในเวลา 05.00 ของวันพฤหัสบดีที่ 22 มิ.ย. 2023 (17.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) ออกซิเจนในเรือจะหมดลง
- 15.00 น. (02.00 ของวันที่ 23 มิ.ย. ตามเวลาประเทศไทย) หน่วยยามฝั่งแถลงยืนยันการเสียชีวิตของผู้โดยสารบนยานไททันทั้ง 5 คน
คลิปวิดีโอเปรียบเทียบซากเรือที่จมตั้งแต่อดีต – ปัจจุบัน กับความลึกของมหาสมุทร
โอกาสรอดชีวิต?
ผู้เชี่ยวชาญทางทะเล รวมถึง เดวิด มาร์เกต์ อดีตกัปตันเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของกองทัพเรือสหรัฐฯ คาดการณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า หากเรือดำน้ำ “ไททัน” ติดอยู่กับซากเรือไททานิก ตามที่หลายฝ่ายสันนิษฐาน โอกาสที่จะพบคนบนเรือรอดชีวิต มีเพียง 1% เท่านั้น
ด้าน ทิม มอลติน ผู้เชี่ยวชาญด้านการจมและอับปางของเรือไททานิก กล่าวว่า หากเรือดำน้ำยังอยู่ที่ใต้มหาสมุทร แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะช่วยเหลือได้ “ข้างล่างเป็นสีดำสนิท หนาวจัด ก้นทะเลเป็นโคลนและเป็นคลื่น คุณไม่สามารถมองเห็นมือของคุณตรงหน้าได้เลยด้วยซ้ำ”
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า แนวคิดเรื่องการใช้เรือดำน้ำลำอื่นลงไปช่วยดึงไททันขึ้นมานั้น “ไม่น่าจะเป็นไปได้” เพราะปัจจุบันมีเรือดำน้ำเพียงไม่กี่ลำเท่านั้นที่สามารถลงไปถึงส่วนลึกของซากเรือไททานิกได้ และแม้ว่าพวกเขาจะไปถึงมันได้ แต่เรือดำน้ำก็ไม่มีกำลังพอที่จะลากไททันขึ้นสู่ผิวน้ำได้
ส่วนในกรณีที่เรือดำน้ำไททันลอยกลับขึ้นมาแล้ว ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า สถานการณ์จะเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร เพราะเรือไททันที่มีขนาดเท่ารถตู้จะตรวจจับได้ยากขึ้นหากจมอยู่ใต้น้ำบางส่วน และมันอยู่ไกลออกไปในมหาสมุทร ดังนั้นการเคลื่อนย้ายเรือและอุปกรณ์ไปยังพื้นที่ขนาดใหญ่ที่กำลังค้นหาต้องใช้เวลา
เดวิด โพก กล่าวว่า “สถานการณ์ที่น่ากลัวที่สุดคือ พวกเขายังมีชีวิตอยู่ แต่อากาศเริ่มหมด และไม่สามารถออกไปได้”
แจนนิกกี มิคเคลเซน เพื่อนของนักธุรกิจ ฮามิช ฮาร์ดิง กล่าวว่า “การขาดพลังงานเป็นอีกหนึ่งในความท้าทายหลัก”
เธอบอกว่า “พวกเขามีออกซิเจนเพียงพอที่จะทำให้มีชีวิตอยู่ได้นานถึง 96 ชั่วโมง แต่พวกเขาก็ต้องการพลังเพื่อให้มีชีวิตอยู่ ดังนั้น สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือพวกเขามีออกซิเจน แต่ไม่มีพลังงาน และถ้าเป็นอย่างนั้น มีโอกาสที่พวกเขาจะเกิดภาวะอุณหภูมิต่ำ (Hypothermia) อย่างรวดเร็ว” เธอกล่าว
เรียบเรียงจาก Al Jazeera / BBC / The Guardian
ภาพจาก AFP
